วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เอนไซม์


                เป็นโปรตีนชนิดก้อนกลมชนิดหนึ่ง ที่ทําหน้าที่เป็น ตัวเร่งปฏิกิริยา ในสิ่งมีชีวิต โดยจะไป ลดพลังงานก่อกัมมันต์ (Activation energy ; Ea) และทําให้อนุภาคของสารตั้งต้น (Substrate) ชนกันในทิศทางที่เหมาะสม มีผลทําให้ ปฏิกิริยาเกิดได้เร็วขึ้น ดังภาพ 

           จากกราฟ การหาพลังงานก่อกัมมันต์ (Ea) จากกราฟระหว่างพลังงานกับการดําเนินไปของปฏิกิริยาสามารถหาได้ โดยนําเอาพลังงานของสารตั้งต้นไปลบออกจากพลังงานที่จุดสูงสุดของการเกิดปฏิกิริยานั้นๆ ซึ่งเอนไซม์จะมีตำแหน่งที่ไปกระตุ้นการเกิดปฏิกิริยา เรียกว่า Active site และมีขั้นตอนการทำงานของเอนไซม์ ดังภาพ

 ลักษณะโครงสร้างและการทำงาน Active site ของเอนไซม์


 ขั้นตอนการทำงานของเอนไซม์ แบบรวมโมเลกุล

 ขั้นตอนการทำงานของเอนไซม์ แบบสลายโมเลกุล (เช่น สารอาหาร)
        
ปัจจัยที่มีผลต่อการทำงานของเอนไซม์
เนื่องจากเอนไซม์เป็นโปรตีนทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาของซับเตรทจนได้เป็นผลผลิตแล้ว จะสามารถกลับมาทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาได้อีกอย่างต่อเนื่อง การได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมจึงมีผลต่อการทำงานของเอนไซม์โดยปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อการทำงานของเอนไซม์โดยสรุปประกอบด้วย
             1.   ความเข้มข้นของซับสเตรท         เมื่อความเข้มข้นของซับสเตรทเพิ่มขึ้น   อัตราเร็วของปฏิกิริยาจะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่มีความเร็วสูงสุด  ในกรณีที่มีซับสเตรทเพียงชนิดเดียวและความเข้มข้นของเอนไซม์คงที่ และหลังจากนั้นแม้จะเพิ่มความเข้มข้นของซับสเตรท อัตราเร็วของปฏิกิริยาก็ไม่เพิ่มขึ้น ในบางกรณีความเข้มข้นของซับสเตรทที่สูงเกินไปอาจยับยั้งปฏิกิริยาทำให้อัตราเร็วการเกิดปฏิกิริยาลดลงได้

               2.  ความเข้มข้นของเอนไซม์   อัตราเร็วของปฏิกิริยามักจะแปรผันโดยตรงกับความเข้มข้นของเอนไซม์    เมื่อมีปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเข้มข้นของซับสเตรท   ค่าพีเอช  และอุณหภูมิคงที่ ยกเว้น ในกรณีต่างๆ ดังนี้คือ อัตราการละลายของซับสเตรทมีขีดจำกัดเช่น การละลายของออกซิเจนในระบบที่เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน        การผันแปรสมบัติของซับสเตรทหรือผลิตภัณฑ์จนทำให้เกิดการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์    หรือการที่โคแฟคเตอร์ที่จำเป็นสำหรับเอนไซม์แตกตัวออกจากเอนไซม์เป็นต้น

            3.  ค่าพีเอช    เอนไซม์ส่วนใหญ่จะเร่งปฏิกิริยาได้ในช่วงพีเอช ระหว่าง 4-10      ถ้าพีเอชต่ำกว่า 4  หรือสูงกว่า 10 จะทำให้เอนไซม์ถูกยับยั้งอย่างถาวร  ยกเว้นเพปซิน เรนนินและอัลคาไลน์-ฟอสฟาเทส ทั้งนี้เพราะเอนไซม์ทุกชนิดเป็นโปรตีน การเปลี่ยนแปลงพีเอชมีผลต่อประจุบนโมเลกุลของโปรตีนจึงมีผลต่อการทำงานที่บริเวณเร่ง (active site) ของเอนไซม์              และจะมีผลสูงสุดเมื่อมีความเข้มข้นของไฮโดรเจนไอออนหรือไฮดรอกซิลไอออนมากจนถึงจุดพีไอ      ซึ่งโครงสร้างโมเลกุลแบบตติยภูมิของโปรตีนถูกทำลาย        จึงทำให้ การรวมตัวของเอนไซม์กับซับสเตรทที่บริเวณเร่งไม่สามารถเกิดขึ้นได้       เอนไซม์แต่ละชนิดมีค่าพีเอชที่เหมาะสม (optimum pH) สำหรับเร่งปฏิกิริยาให้ได้ความเร็วสูงสุด

เอนไซม์
pH ที่เหมาะสม
ไลเปส (ตับอ่อน)
8.0
ไลเปส (กระเพาะอาหาร)
4.0 – 5.0
เปปซิน
1.5 – 1.6
ทริปซิน
7.8 – 8.7
ยูรีเอส
7.0
มอลเทส
6.1 – 9.8
อะไมเลส (ตับอ่อน)
6.7 – 7.0

                  4.   อุณหภูมิ  การเพิ่มอุณหภูมิจะทำให้สารที่ทำปฏิกิริยามีพลังงานมากพอที่จะทำให้สารนั้นกลายเป็นสารที่ถูกกระตุ้นแล้วมีพลังงานสูง อยู่ในสภาพที่จะเปลี่ยนไปเป็นผลิตผลอย่างรวดเร็ว      การเพิ่มอุณหภูมิจึงทำให้อัตราเร็วของปฏิกิริยาเพิ่มขึ้น           แต่การเพิ่มอุณหภูมิทำให้โปรตีนซึ่งมีโครงรูปสามมิติที่ต้องจัดเรียงตัวของหมู่ต่างๆในโมเลกุล       โดยเฉพาะบริเวณเร่งให้พอเหมาะแก่การจับกับซับสเตรทแล้วเกิดปฏิกิริยาเปลี่ยนเป็นผลผลิตได้    เมื่อมีอุณหภูมิสูงเกินไปจะทำให้โปรตีนแปลงสภาพจากธรรมชาติ         จึงทำให้เอนไซม์มีสมบัติในการเร่งปฏิกิริยาลดลงหรือเสียไป 

           5.  แอกติวิตีของน้ำ การทำงานเอนไซม์โดยทั่วไปจะเกิดได้ดีเมื่ออยู่ในภาวะที่เป็นสารละลายในน้ำ ยกเว้น เอนไซม์บางชนิด เช่น ไรโบนิวเคลียเอสและไลโซไซม์  เนื่องจากน้ำเป็นตัวทำละลายทั้งเอนไซม์และซับสเตรท จึงทำให้มีการการชนกันของโมเลกุลทั้ง 2 ชนิด จนสามารถจับตัวกันได้ ยิ่งเป็นเอนไซม์ในกลุ่มไฮโดรเลส  น้ำยังทำหน้าที่เป็นซับสเตรทด้วยปฏิกิริยาจึงเกิดได้ดี  เมื่อมีค่าแอกติวิตีของน้ำค่อนข้างสูง
                  6. โคแฟคเตอร์ของเอนไซม์  เอนไซม์จำนวนมากจะเร่งปฏิกิริยาได้ต่อมีโคแฟคเตอร์ร่วมทำงานด้วย เช่น พอลิฟีนอลออกซิเดส ต้องมีไอออนของทองแดง แอลฟา- อะไมเลสต้องมีไอออนของแคลเซียมเป็นต้น หากขาดโคแฟคเตอร์ก็จะทำให้เอนไซม์ทำงานไม่ได้
                  7.   สารยับยั้งการทำงานของเอนไซม์  สารยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ (enzyme inhibitor) เป็นสารที่มีผลทำให้ความเร็วของปฏิกิริยาที่มีเอนไซม์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาลดลง เช่น ทริปซินอินฮิบิเตอร์ ที่พบในถั่วเหลืองซึ่งยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ทริปซิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น